Last updated: 2019-10-13 | 391 จำนวนผู้เข้าชม |
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม (กมฺมุนา วตฺตตีโลโก)
....เมื่อคนเรามีการกระทำซึ่งเป็นกรรมเกิดขึ้นทุกวัน
ย่อมมีชีวิตเป็นไปตามผลของการกระทำ
ก็คือ บุญและบาป เช่นนี้ตลอดชีวิต
....ซึ่งบาปหรืออกุศลกรรมนั้นไม่มีใครสามารถแก้ หรือตัดได้
บุญและบาปเป็นผลของการกระทำ ที่จะเป็นเหตุให้ผู้กระทำได้รับผลนั้น ๆ
ดังที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสสอนไว้ว่า "เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี"
....เหตุตรงผลเสมอ เมื่อกระทำในสิ่งที่เป็นกุศลกรรมก็จะส่งผลเป็นบุญ
คือ ความสุข ความสำเร็จ ความสมปรารถนา
....แต่หากทำในสิ่งไม่ดี อันเป็นอกุศลกรรม ผลที่ออกมาก็จะได้บาป
มีแต่ความทุกข์ ความผิดหวัง ทำอะไรก็มีแต่ความล้มเหลว
....เหตุก็ต้องดู ทำบาปแล้วเติมบุญให้มาก ๆ ขึ้น บาปก็จะตามไม่ทัน
และบุญก็จะส่งผลดีให้กับชีวิต
....และการที่จะงดการกระทำบาป แล้วมาเติมบุญได้นั้น
ต้องรู้หลักวิธีการฝึกปฏิบัติที่ถูกต้องถูกทางครบถ้วน
....ในพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์
พระพุทธเจ้าเป็นบุคคลที่ฉลาดที่สุด หาบุคคลใดเสมอเหมือนไม่ได้
จึงสอนเรื่องยากที่สุดให้ง่ายที่สุดได้
....สรุปพระธรรมคำสอนของพระองค์ทั้งหมด ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์
ให้นำไปสู่การปฏิบัติเหลือเพียง คำเดียวเท่านั้น
คือคำว่า "ไม่เที่ยงเกิดดับ"
....ท่องไม่เที่ยงเกิดดับ ปฏิบัติแล้วได้ผล
ภายใน ๗ วัน ๗ เดือน ๗ ปี อย่างช้า
....พระพุทธเจ้าตรัสไว้อย่างนี้
คือการวิปัสสนาภาวนา พิจารณาขันธ์ ๕ อินทรีย์ ๖
....ให้รู้เห็นสิ่งทั้งปวงที่มากระทบสัมผัสตัวเราในขณะปัจจุบัน
ตามความเป็นจริงของโลกและชีวิต
ว่าสิ่งทั้งปวงไม่เที่ยงเกิดดับ มีเหตุปัจจัยมาประชุมกันชั่วคราว
ไม่มีตัวตนเป็นของตนเอง
....นี่คือการฝึกปฏิบัติเพื่อ "เจริญปัญญา" แล้วเอาปัญญาที่ได้นี้ไปดับทุกข์
ในขณะปัจจุบันที่ถูกกระทบสัมผัสในทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ....
Oct 02, 2019
Oct 02, 2019